เมื่อพูดถึง “รสนิยม” ประเทศฝรั่งเศสมักจะติดอันดับต้น ๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นในด้านศิลปะ วัฒนธรรม แฟชั่น หรือ อาหาร แต่สิ่งที่ทำให้ฝรั่งเศสมีเสน่ห์มากไปกว่านั้น คือการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง รสชาติอาหารชั้นเลิศ และ ความงามตามธรรมชาติที่น่าหลงใหล ทำให้ทุกการเดินทางกลายเป็นวันหยุดที่ทั้ง “อิ่มท้อง อิ่มใจ และอิ่มตา” ในเวลาเดียวกัน
ศิลปะแห่งอาหารฝรั่งเศส – ความละเมียดในทุกจาน

อาหารฝรั่งเศสไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่รับประทานเพื่ออิ่มท้อง แต่คือ “ศิลปะ” ที่ถ่ายทอดเรื่องราว วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านรสชาติและการจัดจานอย่างประณีต เมนูที่คุณไม่ควรพลาด ได้แก่:
- ครัวซองต์ (Croissant): ขนมปังอบกรอบ หอมเนย นิยมรับประทานในตอนเช้าคู่กับกาแฟ
 - ชีสหลากชนิด: Camembert, Brie, Roquefort – แต่ละแคว้นมีชีสเฉพาะตัว
 - เอสคาร์โกต์ (Escargots): หอยทากฝรั่งเศสปรุงด้วยเนยกระเทียม รสชาติเข้มข้น
 - Coq au vin: ไก่ตุ๋นไวน์แดง เมนูพื้นเมืองที่แสดงถึงความพิถีพิถันในการปรุง
 - ไวน์ฝรั่งเศส: จากบอร์โด (Bordeaux) โบฌัวเล (Beaujolais) ถึงแชมเปญ (Champagne) แต่ละภูมิภาคมีรสชาติเฉพาะที่คู่ควรกับอาหารฝรั่งเศสทุกจาน
 
นอกจากร้านอาหารดาวมิชลินแล้ว ยังมี ร้านอาหารท้องถิ่น (Bistro และ Brasserie) ที่ให้ประสบการณ์รสชาติแท้ ๆ ในบรรยากาศอบอุ่น
ความงามตามธรรมชาติ – ดั่งภาพวาดที่มีชีวิต
ฝรั่งเศสไม่ได้มีดีแค่ในเมืองใหญ่ แต่ยังเต็มไปด้วยธรรมชาติอันตระการตา ตั้งแต่ยอดเขาหิมะ ทุ่งดอกไม้สีสันสดใส ไปจนถึงชายฝั่งทะเลสีคราม
ทือกเขาแอลป์ (Alps):
- สวรรค์ของผู้ชื่นชอบหิมะ ทิวทัศน์อลังการ และอากาศบริสุทธิ์
 - ฤดูร้อนเหมาะกับการเดินป่า ฤดูหนาวคือสวรรค์ของการเล่นสกี
 
แคว้นโปรวองซ์ (Provence):
- ทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงตัดกับฟ้าคราม เป็นภาพที่ยากจะลืม
 - หมู่บ้านบนเนินเขาอย่าง Gordes และ Roussillon มีเสน่ห์อย่างเรียบง่าย
 
ชายฝั่งริเวียร่า (French Riviera):
- เมืองอย่างนีซ แซงต์โทรเปซ์ และโมนาโก มีหาดทรายสีทอง น้ำทะเลสีฟ้าใส
 - เป็นที่ที่อาหารทะเลสดใหม่มาบรรจบกับแสงแดดยามบ่ายอย่างลงตัว
 
แคว้นบอร์โด (Bordeaux) และเบอร์กันดี (Burgundy):
- เต็มไปด้วยไร่องุ่นและเส้นทางชิมไวน์ที่พาให้คุณดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างแท้จริง
 - สามารถพักผ่อนในปราสาทไร่องุ่น (château) พร้อมลิ้มรสอาหารที่จับคู่กับไวน์อย่างปราณีต
 
วันหยุดอย่างมีรสนิยม – มากกว่าการพักผ่อน
การเดินทางในฝรั่งเศสคือโอกาสในการ ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ (Art de vivre):
- อาหารที่สร้างประสบการณ์: ทุกมื้อคือการเฉลิมฉลอง
 - ธรรมชาติที่บรรจบกับวัฒนธรรม: ทุกภูมิภาคมีเรื่องราวและเอกลักษณ์
 - จังหวะชีวิตที่ไม่เร่งรีบ: ได้มีเวลาลิ้มรส แบ่งปัน และชื่นชมสิ่งรอบตัว
 
วันที่ 1: เริ่มต้นที่ปารีส – ศูนย์กลางแห่งรสนิยม
- เช้า: เช็กอินที่โรงแรมและเดินชมย่าน Saint-Germain-des-Prés
 - กลางวัน: ทานอาหารฝรั่งเศสแบบคลาสสิกที่บิสโทรท้องถิ่น เช่น Boeuf Bourguignon หรือ Quiche Lorraine
 - บ่าย: เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ แล้วจิบชาในคาเฟ่ริมแม่น้ำแซน
 - เย็น: ดินเนอร์มื้อพิเศษที่ร้านอาหารดาวมิชลิน เช่น Le Meurice หรือ Septime
 
วันที่ 2: เดินทางสู่บอร์โด – ดินแดนแห่งไวน์
- เช้า: เดินทางโดย TGV จากปารีสไปยังเมืองบอร์โด
 - กลางวัน: ทานอาหารกลางวันพร้อมชิมไวน์ในเขต Saint-Émilion
 - บ่าย: ทัวร์ไร่องุ่นและห้องใต้ดินบ่มไวน์ พร้อมเรียนรู้วิธีจับคู่ไวน์กับชีส
 - เย็น: ดินเนอร์ใน Château บรรยากาศหรูหรา พร้อมเมนู Duck confit และไวน์แดง
 
วันที่ 3: สัมผัสธรรมชาติที่แคว้นโดร์โดญ (Dordogne)
- เช้า: เดินทางสู่หมู่บ้านยุคกลางอย่าง Sarlat-la-Canéda
 - กลางวัน: ลองอาหารพื้นถิ่นอย่าง Foie gras และ Truffle omelette
 - บ่าย: ล่องเรือแม่น้ำ Vézère ชมผาหินและป่าไม้เขียวขจี
 - เย็น: พักผ่อนในที่พักแบบบ้านไม้ชนบท พร้อมดินเนอร์แบบโฮมเมด
 
วันที่ 4: เดินทางสู่โปรวองซ์ – ดินแดนแห่งลาเวนเดอร์และแสงแดด
- เช้า: มุ่งหน้าสู่แคว้นโปรวองซ์ ผ่านเส้นทางชนบท
 - กลางวัน: แวะหมู่บ้าน Gordes ทานอาหารในร้านกลางทุ่งลาเวนเดอร์
 - บ่าย: เดินเล่นตลาดท้องถิ่น ชิมขนม Nougat และน้ำมันมะกอก
 - เย็น: ดินเนอร์ริมภูเขาที่ร้านอาหารสไตล์ชนบท พร้อมแชมเปญท้องถิ่น
 
วันที่ 5: นีซ – ริมฝั่งริเวียร่าอันสว่างไสว
- เช้า: เดินทางไปยังเมืองนีซ
 - กลางวัน: อาหารทะเลสด ๆ ริมชายหาด เช่น Bouillabaisse หรือ Salade Niçoise
 - บ่าย: เดินเลาะ Promenade des Anglais และแวะชมตลาด Cours Saleya
 - เย็น: ดินเนอร์ริมทะเลพร้อมชมพระอาทิตย์ตกที่ร้านอาหารริมผา
 
วันที่ 6: เที่ยวเกาะเลอแร็ง (Îles de Lérins) – ธรรมชาติบริสุทธิ์ในวันสงบ
- เช้า: ล่องเรือจากเมืองคานส์ไปยังเกาะ Sainte-Marguerite
 - กลางวัน: ปิกนิกท่ามกลางป่าสนและเสียงคลื่น
 - บ่าย: เดินเล่นสำรวจป้อมปราการเก่าและทางเดินธรรมชาติ
 - เย็น: กลับสู่ฝั่ง ทานอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยพร้อมไวน์ขาวเบา ๆ
 
วันที่ 7: ส่งท้ายวันหยุดอย่างมีรสนิยม
- เช้า: จิบกาแฟและครัวซองต์ในร้านขนมฝรั่งเศสท้องถิ่น
 - กลางวัน: ช้อปของฝาก เช่น ไวน์ ชีส น้ำหอม หรือขนมฝรั่งเศส
 - บ่าย: เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ พร้อมหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความประทับใจ
 
ทางเลือกกิจกรรมและประสบการณ์เพิ่มเติม: เติมเต็มวันหยุดให้ลึกซึ้งและหลากหลายยิ่งขึ้น
วันหยุดในฝรั่งเศสที่เน้นรสชาติและธรรมชาติ ไม่จำกัดเฉพาะการรับประทานอาหารดี ๆ และชมวิวสวย ๆ เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณได้ลงมือทำ เรียนรู้ และสัมผัสประสบการณ์อย่างแท้จริง ทั้งในเมืองเล็กและเมืองใหญ่
เรียนทำอาหารฝรั่งเศส
หลายเมืองในฝรั่งเศสเปิดคลาสสั้นสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น
- การเรียนทำครัวซองต์หรือมาการองในปารีส
 - คลาสทำอาหารทะเลในนีซ
 - เวิร์กช็อปการเลือกไวน์และจับคู่กับชีสในบอร์โด
การได้ลองทำอาหารด้วยตนเองคืออีกหนึ่งวิธีในการเข้าใจวัฒนธรรมฝรั่งเศสผ่านรสมือ 
ทัวร์ไร่องุ่นและชิมไวน์
หากคุณสนใจไวน์ฝรั่งเศสอย่างจริงจัง การเดินทางไปยังแคว้นผลิตไวน์ เช่น
- แคว้นบอร์โด
 - เบอร์กันดี
 - ช็องปาญ
จะเปิดโลกของคุณให้กว้างขึ้น คุณสามารถเดินในไร่องุ่น พบผู้ผลิตไวน์ และเรียนรู้การบ่มไวน์จากต้นทาง 
พักในบ้านไร่หรือชาโตว์
การพักผ่อนในบ้านไร่หรือปราสาทเก่า (Château) ที่ได้รับการดัดแปลงเป็นที่พัก คืออีกประสบการณ์หนึ่งที่ทำให้คุณได้สัมผัสทั้งธรรมชาติ ความเงียบสงบ และการใช้ชีวิตแบบฝรั่งเศสดั้งเดิม
บางแห่งมีฟาร์ม ชีสทำมือ หรือสวนผักที่คุณสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้จริง
เดินป่าหรือปั่นจักรยานในชนบท
แคว้นชนบทของฝรั่งเศสเต็มไปด้วยเส้นทางธรรมชาติ ทั้งแบบเรียบง่ายและสำหรับนักเดินป่าที่มีประสบการณ์
- เส้นทางในหุบเขาลัวร์
 - เส้นทางจักรยานรอบทะเลสาบอานซี
 - เส้นทางเดินชมวิวชายฝั่งในนอร์มังดี
กิจกรรมเหล่านี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายพร้อมออกกำลังกายเบา ๆ ในอ้อมกอดของธรรมชาติ 
เยี่ยมชมตลาดท้องถิ่น
แทบทุกเมืองในฝรั่งเศสมีตลาดสดประจำสัปดาห์ ซึ่งเต็มไปด้วยชีส อาหาร ขนมปัง ผลไม้ตามฤดูกาล ไวน์ท้องถิ่น และของทำมือ
การเดินตลาดคือโอกาสที่ดีในการสื่อสารกับผู้คนท้องถิ่น และลิ้มลองรสชาติแบบไม่ผ่านการปรุงแต่ง
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตของคนฝรั่งเศสจริง ๆ
