Close Menu
    Facebook X (Twitter) Instagram
    envypillowthailand
    • Home
    • ข่าวสารล่าสุด
    • ความบันเทิง
    envypillowthailand
    ข่าวสารล่าสุด

    การสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับผู้ใหญ่ วัคซีน ใดที่จำเป็น

    Nicholas GonzalezBy Nicholas GonzalezJune 23, 2025Updated:June 23, 2025No Comments2 Mins Read
    xr:d:DAF-IamhYhk:2,j:2872590818303246585,t:24022901

    การฉีด วัคซีน ไม่ใช่เพียงสิ่งจำเป็นสำหรับเด็กเท่านั้น แต่ยังสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ใหญ่ด้วย หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าวัคซีนจำเป็นแค่ในวัยเด็ก แต่ในความเป็นจริง ร่างกายยังคงต้องการการป้องกันอย่างต่อเนื่องเมื่อเราอายุมากขึ้น วัคซีนบางชนิดจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นซ้ำ และบางโรคก็เสี่ยงมากขึ้นในวัยผู้ใหญ่ บทความนี้จะกล่าวถึงวัคซีนสำคัญที่ผู้ใหญ่ควรได้รับ

    ทำไมการฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่จึงสำคัญ?

    เมื่ออายุมากขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะเริ่มอ่อนแอลง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น นอกจากนี้ วัคซีนที่เคยได้รับในวัยเด็กอาจหมดฤทธิ์ไปตามเวลา การฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่จึงมีความสำคัญด้วยเหตุผลต่อไปนี้:

    • ป้องกันโรคร้ายแรง – วัคซีนสามารถป้องกันโรคที่อันตราย เช่น ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม และไวรัสตับอักเสบ
    • ปกป้องผู้อื่น – การฉีดวัคซีนไม่เพียงป้องกันตัวคุณเอง แต่ยังช่วยลดการแพร่เชื้อไปยังทารกหรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
    • ป้องกันโรคระหว่างการเดินทาง – หากเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีโรคเฉพาะถิ่น อาจจำเป็นต้องฉีดวัคเสริม เช่น ไข้เหลือง หรือไทฟอยด์
    • ผู้มีโรคประจำตัว – ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน เอชไอวี หรือโรคหืด มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อมากขึ้น

    วัคซีนที่แนะนำสำหรับผู้ใหญ่

    1. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine)
    ควรฉีดเป็นประจำทุกปี เพราะไวรัสไข้หวัดใหญ่กลายพันธุ์อยู่เสมอ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว

    2. วัคซีน Tdap (บาดทะยัก คอตีบ ไอกรน) หรือเข็มกระตุ้น Td

    • บาดทะยัก – เกิดจากแบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผล
    • คอตีบ – การติดเชื้อทางเดินหายใจที่อาจร้ายแรง
    • ไอกรน – โรคติดต่อที่เป็นอันตรายต่อทารก
      ควรฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี และหญิงตั้งครรภ์ควรได้รับเพื่อป้องกันทารก

    3. วัคซีน HPV (เชื้อไวรัสฮิวแมนแพพพิโลมา)
    ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ทวารหนัก และคอ
    แนะนำสำหรับ:

    • เด็กหญิงและชายอายุ 9–26 ปี (ก่อนเริ่มมีเพศสัมพันธ์)
    • ผู้ใหญ่ถึงอายุ 45 ปี (ควรปรึกษาแพทย์)

    4. วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B)
    ส่งผลต่อการทำงานของตับและอาจนำไปสู่มะเร็งตับ
    แนะนำสำหรับ:

    • ผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน
    • กลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ใช้ยาเสพติดทางเข็ม ผู้ที่มีคู่นอนติดเชื้อ

    5. วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A)
    ติดจากอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อน
    แนะนำสำหรับ:

    • นักเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง
    • ผู้ที่มีโรคตับเรื้อรัง
    • ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย

    6. วัคซีนป้องกันโรคปอดบวม (Pneumococcal Vaccine)
    ป้องกันโรคปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และการติดเชื้อในกระแสเลือด
    แนะนำสำหรับ:

    • ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป
    • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น หัวใจ เบาหวาน หอบหืด เอชไอวี

    7. วัคซีน MMR (หัด คางทูม หัดเยอรมัน)
    หากเกิดหลังปี 1990 และไม่เคยได้รับ ควรปรึกษาแพทย์

    8. วัคซีนอีสุกอีใส (Varicella Vaccine)
    ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสหรือไม่เคยฉีดวัคซีน มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน ควรฉีด 2 เข็ม

    9. วัคซีนงูสวัด (Herpes Zoster Vaccine)
    เกิดจากเชื้อไวรัสอีสุกอีใสที่กลับมาทำงานอีกครั้ง แนะนำสำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป

    10. วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal Vaccine)
    จำเป็นสำหรับ:

    • นักเดินทางไปยังพื้นที่ระบาด เช่น แอฟริกา
    • นักศึกษาที่พักในหอพัก
    • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

    11. วัคซีนโควิด-19 (COVID-19 Vaccine)
    ยังคงมีความสำคัญ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือกลุ่มเสี่ยง ควรได้รับเข็มกระตุ้นตามคำแนะนำ

    ควรฉีดวัคซีนเมื่อใด?

    • อายุ 19–26 ปี: HPV, MMR (ถ้ายังไม่เคยรับ), ไวรัสตับอักเสบบี
    • อายุ 27–49 ปี: วัคซีนกระตุ้น Tdap, วัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี, วัคซีนไวรัสตับอักเสบ A/B (ถ้าเสี่ยง)
    • อายุ 50 ปีขึ้นไป: วัคซีนงูสวัด, วัคซีนปอดบวม, วัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น

    ปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน

    ไม่ใช่ทุกคนจะต้องได้รับวัคซีนเหมือนกัน ปัจจัยอย่างประวัติสุขภาพ อาชีพ และรูปแบบการใช้ชีวิตจะมีผลต่อคำแนะนำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจรับวัคซีนใดๆ

    แนวทางการวางแผนฉีดวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่

    การฉีดวัคซีนในวัยผู้ใหญ่ควรมีการวางแผนอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีภาวะสุขภาพเฉพาะ หรือมีพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อให้ได้รับภูมิคุ้มกันอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูงสุด

    1. ประเมินความเสี่ยงส่วนบุคคล

    ผู้ใหญ่แต่ละคนมีความเสี่ยงต่อโรคแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

    • อายุ
    • โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคปอดเรื้อรัง
    • ลักษณะอาชีพ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ พนักงานสนามบิน ครู
    • พฤติกรรมส่วนตัว เช่น การเดินทางบ่อย การดื่มสุรา สูบบุหรี่

    2. ตรวจสอบประวัติการฉีดวัคซีน

    ควรนำสมุดบันทึกวัคซีนเดิม (หากมี) ไปปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินว่าเคยได้รับวัคซีนใดแล้วบ้าง และควรฉีดซ้ำหรือเสริมเพิ่มเติมเมื่อไร

    3. ปรึกษาแพทย์หากมีปัญหาสุขภาพ

    กรณีมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ตั้งครรภ์ หรืออยู่ระหว่างใช้ยากดภูมิ ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินความเหมาะสมในการฉีดวัคซีนแต่ละชนิด


    การให้ความรู้เรื่องวัคซีนในชุมชน

    การส่งเสริมการฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในระดับชุมชน ซึ่งเป็นฐานที่สำคัญของสังคมไทย

    วิธีการที่สามารถใช้ได้ในระดับชุมชน ได้แก่

    • การจัดกิจกรรมให้ความรู้
      เช่น การบรรยายในชมรมผู้สูงอายุ ศูนย์สุขภาพชุมชน หรือศูนย์เรียนรู้สุขภาพ
    • การสร้างเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)
      ให้ช่วยให้ข้อมูลเรื่องวัคซีน ติดตามผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และประสานงานกับสถานพยาบาล
    • การใช้สื่อประชาสัมพันธ์ที่เข้าใจง่าย
      เช่น อินโฟกราฟิก คลิปวิดีโอ หรือเสียงตามสาย เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายอย่างครอบคลุม

    ตัวอย่างกรณีวัคซีนที่ช่วยชีวิตในผู้ใหญ่

    • ผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ มีอัตราการเข้าโรงพยาบาลลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
    • ผู้หญิงที่ฉีดวัคซีน HPV ก่อนมีเพศสัมพันธ์ มีความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกลดลงมากกว่า 90%
    • ผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีแนวโน้มฟื้นตัวเร็วขึ้นและลดโอกาสเสียชีวิต

    หากต้องการให้ผมจัดทำ คู่มือการฉีดวัคซีนสำหรับวัยทำงาน หรือ เอกสารสำหรับศูนย์สุขภาพตำบล เพิ่มเติม ผมสามารถเขียนต่อให้ได้ในรูปแบบที่ต้องการ เช่น:

    • สรุปสำหรับติดบอร์ดในโรงงานหรือบริษัท
    • แผ่นพับให้ความรู้แก่ผู้สูงอายุในชุมชน
    • เวอร์ชัน infographic พร้อมหัวข้อย่อยอ่านง่าย

    วัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ก่อนการเดินทาง

    การเดินทางระหว่างประเทศ โดยเฉพาะไปยังประเทศในเขตร้อนหรือประเทศกำลังพัฒนา อาจทำให้ผู้เดินทางสัมผัสกับโรคติดเชื้อที่ไม่พบในประเทศไทย ดังนั้น การฉีดวัคซีนก่อนการเดินทางจึงมีความสำคัญมาก

    วัคซีนที่แนะนำขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทาง เช่น:

    • วัคซีนไข้เหลือง (Yellow fever)
      จำเป็นสำหรับผู้ที่เดินทางไปแอฟริกาและบางประเทศในอเมริกาใต้ (เป็นข้อกำหนดของบางประเทศด้วย)
    • วัคซีนไข้ไทฟอยด์
      สำหรับผู้ที่เดินทางไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ และแอฟริกา
    • วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ/บี
      แนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางระยะยาว หรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง
    • วัคซีนพิษสุนัขบ้า (Rabies)
      หากมีกิจกรรมใกล้ชิดสัตว์ หรือเดินทางในชนบทที่ระบบสาธารณสุขไม่ทั่วถึง
    • วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal)
      โดยเฉพาะในผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ หรือไปยังแอฟริกาเขตร้อน

    ควรเข้ารับคำปรึกษาที่ คลินิกเวชศาสตร์การเดินทาง (Travel Medicine Clinic) ล่วงหน้าอย่างน้อย 4–6 สัปดาห์ก่อนออกเดินทาง เพื่อประเมินความเสี่ยงและวางแผนวัคซีนได้ครบถ้วน


    วัคซีนที่ควรพิจารณาสำหรับผู้หญิงที่วางแผนตั้งครรภ์

    ผู้หญิงที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงตั้งครรภ์ควรระมัดระวังเรื่องวัคซีนอย่างมาก เพราะบางวัคซีนสามารถฉีดได้ บางชนิดต้องเลื่อน หรือหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด

    วัคซีนที่แนะนำก่อนตั้งครรภ์

    • วัคซีนหัด-เยอรมัน-คางทูม (MMR)
      ควรฉีดก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อป้องกันทารกจากโรคหัดเยอรมันซึ่งอาจทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิด
    • วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
      ช่วยลดโอกาสที่แม่จะส่งเชื้อไปยังลูก
    • วัคซีนไข้หวัดใหญ่
      หากฉีดก่อนตั้งครรภ์จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์

    วัคซีนที่สามารถฉีดได้ระหว่างตั้งครรภ์

    • วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
      ปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ทุกไตรมาส และยังส่งภูมิคุ้มกันผ่านรกให้ทารกด้วย
    • วัคซีนบาดทะยัก-คอตีบ-ไอกรน (Tdap)
      แนะนำให้ฉีดระหว่างอายุครรภ์ 27–36 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไอกรนในทารกแรกเกิด

    วัคซีนที่ควรหลีกเลี่ยงขณะตั้งครรภ์

    • วัคซีนชนิดเชื้อเป็น เช่น วัคซีน MMR, วัคซีนอีสุกอีใส
    • วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ (ใช้พิจารณาเป็นรายกรณี)

    ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีนทุกครั้งหากอยู่ในช่วงวางแผนมีบุตร หรือกำลังตั้งครรภ์ เพื่อประเมินความเหมาะสมและความปลอดภัย


    บทความนี้สามารถขยายต่อได้ในหัวข้อ:

    • ตารางวัคซีนผู้ใหญ่ตามช่วงอายุ
    • วัคซีนสำหรับผู้มีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ มะเร็ง
    • ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัคซีนในผู้ใหญ่
    การสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับผู้ใหญ่ วัคซีนใดที่จำเป็น
    Nicholas Gonzalez

    Related Posts

    วันหยุดพักผ่อนในครอบครัวใน ดูไบ สนุกสนานสำหรับทุกวัย

    June 28, 2025

    ผลกระทบของ การทำสมาธิ ต่อสุขภาพหัวใจและความดันโลหิต

    June 24, 2025

    สัญญาณเริ่มต้นของ ภาวะขาดน้ำเรื้อรัง

    June 21, 2025

    Comments are closed.

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.